฿500.00
เนื้อทองแดง สภาพดี รุ่น ๑ ครบรอบอายุ ๘๖ ปี ปี ๒๕๔๒ วัดใต้บ้านยางขี้นก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
ประวัติพระครูประทีปธรรมคุณ (พวง ญาณทีโป) อดีตเจ้าอาวาสวัดใต้บ้านยางขี้นก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ชาติภูมิ พระครูประทีปธรรมคุณ นามเดิม ชื่อ พวง นามสกุล เครือศรี เกิดเมื่อวันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ ตรงกับปีฉลู ขึ้นสามค่ำ เดือนสาม ที่บ้านยางขี้นก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โยมบิดาชื่อ นายเลน โยมมารดาชื่อ นางวัน เครือศรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด ๕ คน หลวงปู่เป็นคนที่ ๕
เมื่อวัยหนุ่มได้สมรสกับนางเปลี่ยน เครือศรี มีบุตรร่วมกัน ๑ คน และบุตรป่วยเสียชีวิต ต่อมานายพวง เครือศรี ได้แยกทางกับนางเปลี่ยนและได้เดินทางไปทำนาที่ภาคกลาง และต่อมาได้กลับมาบ้านยางขี้นก ได้สมรสกับ นางเคน เครือศรี มีบุตรด้วยกัน ๔ คน ในวัยเด็กจนถึงวัยรุ่นหลวงปู่ใช้ชีวิตอย่างลำบาก เนื่องจากฐานะทางครอบครัวยากจน ทำให้ต้องต่อสู้ทำงานรับจ้างเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว มักจะเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อรับจ้างทำงานเป็นเวลานานๆ
การศึกษา เมื่ออายุได้ ๑๐ ปี ได้ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดเหนือยางขี้นก จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ออกจากโรงเรียนมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพทำนาระยะหนึ่ง
พออายุ ๑๘ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดใต้บ้านยางขี้นก พออายุครบ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และได้ศึกษาพระธรรมวินัย เมื่อถึงพรรษาที่ ๒ ชาวบ้านยางขี้นกจึงตั้งสำนักเรียนบาลี เรียนอยู่หนึ่งพรรษา ยังไม่จบหลักสูตร บิดาท่านได้ลาครอบครัวออกบวช ท่านจึงได้ลาสิกขาออกมาช่วยมารดา และต่อมาได้เดินทางไปทำสวนยางที่ภาคใต้ ประมาณครึ่งปีกลับมาบ้านได้เงินมาสร้างครอบครัว และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และทำหน้าที่อยู่ ๑๓ ปี เกษียณอายุการเป็นผู้ช่วย ชาวบ้านจึงแต่งตั้งเป็นไวยาวัจกร
ประจำวัดใต้บ้านยางขี้นก เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๒๔ เวลา ๐๖.๐๐ น. ได้อุปสมบทอีกครั้ง โดยมี พระครูวิมลธรรมาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพินิจศีลคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูสุจิตตานุวัตร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ สมณศักดิ์
พ.ศ.๒๕๒๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดใต้บ้านยางขี้นก
พ.ศ.๒๕๓๗ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระครูชั้นโท ในราชทินนาม “พระครูประทีปธรรมคุณ” จากนั้นหลวงปู่ก็ครองสมณะเพศมาโดยตลอด จนกระทั่งถึงแก่
วาระสุดท้าย หลวงปู่พระครูประทีปธรรมคุณ มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงมาโดยตลอด ไม่ค่อยเจ็บไข้ แต่หลวงปู่มีโรคประจำตัวคือโรคปอด จนกระทั่งปลายปี ๒๕๔๙ อาการอาพาธเริ่มหนักขึ้น ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเขื่องใน ประกอบกับหลวงปู่มีอายุมากแล้ว ฉันอาหารไม่ค่อยได้ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง จนถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๐ เวลา ๐๕.๐๐ น. สิริอายุได้ ๙๕ ปี