฿900.00
เนื้อว่านพุทธคุณ สภาพดี พิมพ์ใหญ่ ปี ๒๕๐๕ วัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
มวลสารสร้างพระ
๑.ว่าน ๑๐๘ ชนิด
๒.ดินเวชนียสถาน
๓.เกษรดอกไม้จากอารามต่างๆ ๑๐๘ วัด
๔.กาฝากไม้ต่างๆอันมีชื่อเป็นมงคล ๑๐๘ ชนิด
๕.ผงกรุศรีวิชัย
๖.ดินยาคนธรรพ์ในศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ทำพิธีปลุกเสก ๗ วัน ๗ คืน โดยพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม จากภาคต่างๆ
วิธีอาราธนา
ก่อนนำพระรูปหลวงพ่อปานศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นการสักการะ คุ้มครองป้องกันตัวเป็นเมตตามหาลาภ
ไม่ให้เป็นคนประมาทและมีความกตัญญูกตเวที ท่องดังนี้ “พุทโธ ปุญญะมะณี สิทธี
สวาหะ” ๓ จบ
วัดโคกสมานคุณ เดิมชื่อ วัดโคกเสม็ดชุน
ซึ่งเปลี่ยนในปี พ.ศ. ๒๔๘๐ พ.ศ.
๒๕๒๐ได้ถวายพระพรทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
พร้อมด้วยพระเจ้าลูกยาเธอทั้ง สองพระองค์ เสด็จมาทรงยกช่อฟ้า
และได้กลายเป็นพระอารามหลวงวัดโคกสมานคุณ วัดโคกสมานคุณ พระอารามหลวง
สังกัดปกครองคณะสงฆ์มหานิกาย เดิมเป็นวัดร้างตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ ตำบลหาดใหญ่
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เรียกกันว่า “วัดโคกเสม็ดชุน”
ซึ่งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ประมาณ ๑ กิโลเมตร
ทางการได้จัดขึ้นทะเบียนผนวกไว้กับที่ดินราชพัสดุ (สถานที่ราชพัสดุ
คือบริเวณบ้านพักตำรวจภูธรและสถานีตำรวจภูธร
และที่ตั้งห้องสมุดประชาชนของเทศบาลนครหาดใหญ่ และที่พักคนงานเทศบาลนครหาดใหญ่)
ทราบจากผู้เฒ่าเล่าว่า เป็นวัดร้างมาประมาณ ๓๐ปี
เนื้อที่วัดมีรูปคล้ายกงฉากช่างไม้ประมาณ ๒๗ ไร่เศษ
ในสมัยที่ทางรถไฟย้ายจากสถานีชุมทางอู่ตะเภามาตั้งที่สถานีชุมทางหาดใหญ่
ครั้งสมัยพระอุปัชฌาย์ปาน วัดคลองเรียน
มีพระเณรที่เดินทางโดยสารรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ได้เห็นความลำบากในเวลามืดค่ำแล้วต้องเดินทางไปพักที่วัดคลองเรียนบ้าง
วัดคลองแหบ้างหรือวัดท่าแซบ้าง
จึงต้องการที่จะตั้งที่พักสงฆ์ในบริเวณที่วัดร้างเดิม
เพราะมีเสาไม้แก่นเป็นหลักสีมาปรากฎอยู่
เสมือนที่ฝังลูกนิมิตรของวัดทั่วไปแต่ทางการได้ขึ้นผนวกที่วัดร้างไว้กับที่ดินราชพัสดุจึงมีความขัดข้อง
ท่านจึงเดินทางไปพบกับเจ้าคณะจังหวัดสงขลาเพื่อขอความกรุณา ให้ช่วยเหลือ
ทางเจ้าคณะจังหวัดสงขลาคือ ท่านเจ้าคุณพระราชเมธี
(ภายหลังย้ายไปอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯเลื่อนเป็นพระรัตนธัช)
ท่านเจ้าคุณรับรองว่าจะช่วยโดยถวายพระพร สมเด็จชาย (กรมหลวงลพบุรีราเมศ
อุปราชมณฑลปักษ์ใต้ ในปลายปี พ.ศ. ๒๔๖๕)ปรากฏว่าได้ผล
ทรงมีพระบัญชาให้หลวงทิพย์กำแหงสงครามที่เคยเป็นนายอำเภอมาตั้งแต่อำเภอยังมีชื่อว่า
“อำเภอเหนือและใต้” เป็นนายอำเภอคนแรกของอำเภอหาดใหญ่
เป็นผู้ประสานงานติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อแยกที่ดินวัดร้างออกมายกฐานะเป็นวัดมีพระสงฆ์ต่อไป
(หลวงทิพย์สงคราม ต่อมาเลื่อนเป็นพระเสน่หามนตรี) พระอุปัชฌาย์ปาน(หรือหลวงพ่อปาน)
ได้ชักชวนชาวบ้านใกล้เคียง มีตำบลคลองแห ตำบลบ้านพรุ ตำบลควนลังเป็นต้น
นำทัพสัมภาระต่างๆมาเพื่อปราบที่และสร้างศาลาให้เสร็จในวันเดียวพออาศัยอยู่ได้เพราะความพร้อมเพรียง
ของชาวบ้านก็ทำได้สมความปรารถนา
ในการกำหนดวันพระอุปัชฌาย์ปานได้เลือกเอาวันอาทิตย์ที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๖
ตรงกับแรม ๘ ค่ำ เดือน ๕ โดยถือตำราโหราศาสตร์ ว่าเป็นวันดีทางจันทรคติ
(อาทิตย์แปดค่ำ จันทร์ สามค่ำ เป็นต้น) เป็นวันที่จะเข้ามาอยู่ที่วัด
ซึ่งในพรรษาแรกมีพระภิกษุ ๕ รูป สามเณร ๓ รูป รวมเป็น ๘ รูป
สามเณรรูปหนึ่งในสามคือ สามเณรกลิ่น ศรนรินทร์
(ภายหลังคือพระเทพมุนีเจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ พระอารามหลวง) พระครูสมานคุณารักษ์
เจ้าอาวาสวัดต่อจากพระอุปัชฌาย์ปานได้สร้างอุโบสถหลังแรกในความอุปภัมภ์ของพระเสน่หามนตรีและคุณนายเกษร
สุคนธหงส์ (เสน่หามนตรี) ได้ทำการผูกพัธสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๐
และได้เปลี่ยนชื่อจากวัดโคกเสม็ดชุน เป็นวัดโคกสมานคุณ ต่อมาในปีพ.ศ.๒๕๑๖
อุโบสถหลังเก่าได้ชำรุดต้องรื้อหลังคาออกหมดและได้สร้างและเปลี่ยนแปลงแบบหลังคาใหม่ตามแบบของกรมศิลปากร
จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๑๘