logologologologo
1
  • Home
  • เปิดให้เช่าบูชา (Sale item)
  • พระพุทธชินราช อนันตชิน หลวงปู่ผล ธัมมปาโล ปี ๒๕๒๘
View cart “พระกริ่งเศรษฐีศรีอุบล หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต นวะโลหะ นำฤกษ์” has been added to your cart.
ตะกรุดหล่อฉลุ พระอาจารย์ปกรณ์ กันตวีโร รุ่นนักรบไทย
23 เมษายน 2023
รูปหล่อ พระพิฆเนศร ประทานพร วัดสระพานจันทร์
29 เมษายน 2023

พระพุทธชินราช อนันตชิน หลวงปู่ผล ธัมมปาโล ปี ๒๕๒๘

฿400.00

Categories: พระเครื่องภาคกลางตอนบน (Upper Central), เปิดให้เช่าบูชา (Sale item)
Share
0
Description
เนื้อผงพุทธคุณ สภาพดี ปี ๒๕๒๘ วัดหนองคณฑี จ.สระบุรี
เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺฐายีมหาเถร) วัดมกุฏกษัตริยาราม เมื่อครั้งทรงสมณศักดิ์ที่พระศาสนโสภณ ได้ลิขิตไว้เป็นการแก้ไขปัญหาของพระคุณนามพระพุทธชินราช ว่า “ใครเป็นผู้ชนะ”ตอนหนึ่งว่า
” ผู้ยอมสละ จึงเป็นผู้ชนะใจของชนทั้งปวง เพราะเป็นผู้ชนะใจของตนเองก่อน โดยความชนะกิเลสของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่ชนะได้แสนยาก..พระบรมศาสดา เป็นผู้ยอมสละมาโดยลำดับ แม้กระทั่งเลือดเนื้อและชีวิต สืบต่อกันมาหลายชาติหลายภพ ที่เรียกกันว่า “ทรงบำเพ็ญทานบารมี” จึงทรงสามารถชนะ ชนะกิเลสของพระองค์ได้เด็ดขาดปราศจากความเห็นแก่ตัวโดยประการทั้งปวง”
ด้วยเหตุนี้แล พระองค์จึงทรงได้รับพระนามว่า “พระชินราชา” หรือ “พระชินราช” ซึ่งแปลว่า พระราชา หรือ พระเจ้าแห่งผู้ชนะทั้งมวล อันควรแก่การเคารพนับถือบูชาอย่างแท้จริง
..ก่อนที่เคารพบูชา “พระพุทธชินราช” กับทั้งได้รับทราบพระพุทธจริยาที่ทรงชนะมารทั้งปวงนั้น ส่วนที่ควรจะน้อมเข้ามาสู่ตัวเองของเรา อันควรจะสร้างชัยชนะให้แก่หัวใจของตนเอง จึงจะถือว่าบูชา พระแล้ว ได้ทั้งบุญทั้งกุศล คือทั้งความสุขใจและสติปัญญาแห่งสัมมาปฏิบัติ โดยได้ศึกษาธรรม และปฏิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรม จึงจะชื่อว่าเรากำลังจะได้รับชัยชนะ โดยเดินตามรอยบาทพระพุทธชินราช สมดังความคิดว่า
…คนที่ประพฤติ ตามธรรมคำ สอนของพระองค์ และย่อมเป็นผู้ให้ความปลอดภัยแก่โลก และย่อมเป็นที่รักนับถือของโลก นับว่าเป็นผู้ชนะที่ปราศจากศัตรู และปลอดภัยโดยประการทั้งปวง ไม่ใช่ผู้ชนะที่น่าหวาดกลัว และมีศัตรูไม่รู้จบ เพราะก่อทุกข์แก่โลก…
… ในที่สุด ขอถามท่านว่า “ใครเป็นผู้ชนะ” ตัวท่านละเป็นผู้ชนะแล้วหรือยัง ท่านเคารพนับถือ “พระพุทธชินราช”ท่านต้องชนะตามธรรมคำสอนของพระองค์ คือ สละให้ความสุขและความปลอดภัยแก่เพื่อนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย..
จากพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าหลังจากที่พระองค์ทรงตรัสรู้ แล้วใหม่ทรงเสวยวิมุตติสุข ๗ สัปดาห์ รวมเป็น ๔๙ วัน ตามมติแห่งพระอรรถกถาจารย์ เมื่อพระพุทธองค์ทรงตัดสินพระทัยเสด็จโปรดเวไนยสัตว์ ต่อมพุทธจริยาแห่งพระพุทธเจ้าทรงมีพุทธพระดำริจะไปโปรดผู้ใดก่อน
ทรงรำลึกถึงอาจารย์ทั้งสองคือ “อาฬารดาบส กาลามโคตร” กับ “อุทกดาบสรามบุตร” แต่ด้วยมัจจุมาร (มาร คือ ความตาย) มาพรากอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ จากทั่งสองท่าน ท่านแรกมรณภาพไปเมื่อ ๗ วันก่อน และท่านที่ ๒ ได้ถึงมรณภาพ เมื่อค่ำวานนี้
จากนั้นพระองค์ได้ทรงพิจารณาถึง “ปัญจวัคคีย์”ฤาษีทั้ง ๕ ที่เคยอุปัฏฐากพระองค์ เมื่อครั้งทรงบำเพ็ญ ทุกรกิริยาว่า มีอินทรีย์อันควรที่จะตรัสรู้ธรรมตามพระองค์ได้ จึงเสด็จดำเนินไปสู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี อันเป็นที่อยู่ของปัญจวัคคีย์นั้น
ระหว่างทางที่จะเสด็จไปโปรด“ปัญจวัคคีย์” มีอาชีวก ชื่อ “อุปกะชีวก” ได้เดินสวนทางเสด็จของพระองค์ ดังที่“อาจารย์วศิน อินทสระ”ได้เขียนบรรยายไว้ในเรื่อง “พระอานนท์พุทธอนุชา”ว่า
.. สมัยเมื่อ พระองค์ตรัสรู้ใหม่ๆทรงดำริจะโปรด“ปัญจวัคคีย์”ณ อิสิปตนมิคทายะ เสด็จดำเนินจากบริเวณโพธิมณฑลไปสู่แขวงเมืองพาราณสี ระหว่างทางทรงพบอาชีวกผู้หนึ่งนามว่า อยู่ในวัย ค่อนข้างชราแล้ว เขาเห็นพระผู้มีพระภาคเดินสวนทางไป จึงถามว่า
“สมณะ ผิวพรรณของท่านผ่องใสยิ่งนัก อินทรีย์ของท่านสงบน่าเลื่อมใส ท่านบวชในสำนักของใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน”
” สหาย” พระศาสดาตรัสตอบรับ “เราเป็นผู้ครอบงำไว้ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นใหญ่ในตนเองเต็มที่ เรารู้ทุกสิ่งทุกอย่างในทางธรรม เราหักกรรมแห่งสังสารจักร เป็นเหตุให้เวียนว่ายตายเกิดได้แล้วด้วยตนเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ จะพึงอ้างใครเล่าว่าเป็นศาสดา”
“ อาชีวก” ได้ฟังดังนี้แล้ว นึกดูหมิ่นอยู่ในใจว่า สมณะผู้นี้ ช่างโอหังลบหลู่คุณของศาสดาตน น่าจะลองถามชื่อดู เผื่อว่าจะมีคณาจารย์เจ้าลัทธิใหญ่ๆจะจำได้บ้างว่าเคยเป็นศิษย์ของตน คิดดังนี้แล้วจึงกล่าวว่า
“สมณะ ที่ท่านกล่าวมานี้ ก็น่าฟังอยู่ดอก แต่จะเป็นไปได้หรือ คนที่รู้อะไรอะไรได้เองโดยไม่มีครูอาจารย์ แต่ช่างเถิด ข้าพเจ้าไม่ติดใจในเรื่องนี้นักดอก ข้าพเจ้าปรารถนาทราบนามของท่าน เผื่อว่าพบกันอีกในคราวหน้าจะได้ทักทายกันถูก”
“พระศากยมุนี” ผู้มี “อนาคตังสญาณ” ทราบเหตุการณ์ภายหน้าได้โดยตลอด ทรงคำนึงถึงประโยชน์บางอย่างในอนาคต แล้วตรัสตอบว่า “สหาย เรามีนามว่า “อนันตชิน” ท่านจำไว้เถิด” แล้ว “อุปกะชีวก” ก็เดินเลยไป พระศาสดา ก็เสด็จบ่ายพระพักตร์ไปสู่พาราณสี
ในส่วนที่ยกมานี้ แม้จะเป็นสำนวนเชิงธรรมนิยาย อิงชีวประวัติในพุทธกาล มันเป็นแนวทางให้ทราบว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสเรียกพระองค์เองต่อบุคคลเป็นครั้งแรกหลังตรัสรู้แล้วว่าพระองค์ คือ “พระชินราช”หรือ “อนันตชิน” คือ พระผู้ชนะอันยิ่งใหญ่หาที่สุดมิได้
ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้ “สมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไท”ทรงถวายพระนามพระพุทธปฏิมา ที่ทรงสร้างขึ้นเมื่อ ๖๐๐ กว่าปีก่อน ว่า“พระพุทธชินราช “ก็อาจเป็นได้ เพราะเจ้านายพระองค์นี้ทรงแตกฉานใน“พระไตรปิฎก”และ “อรรถกถาฎีกา” อีกทั้งคัมภีร์ปกรณ์ต่างๆถึงขนาดร้อยกรอง “เตภูมิกถา” (ไตรภูมิพระร่วง) ที่ทรงอ้างอิงคัมภีร์ปกรณ์ต่างๆ กว่า ๓๐ คำภีร์ “เตภูมิกถา”นี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นวิทยานิพนธ์เล่มแรกที่เจ้านายคนไทยในยุคสุโขทัย ได้พระราชนิพนธ์ขึ้นอันปรากฏแล้วในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา
เนื้อความที่พระพุทธองค์ ตรัสตอบอุปกะชีวกนั้น ซึ่งสอดคล้องกับเตภูมิกถา ดังมีเนื้อความว่า
“เราเป็นผู้ครอบงำธรรม ที่เป็นไปในภูมิ ๓ (กามภูมิ รูปภูมิ และอรูปภูมิทั้งปวง) ได้รู้ธรรมทั้งปวงที่เป็นไปในภูมิ ๔ ( กามภูมิ รูปภูมิ อรูปภูมิ โลกุตรภูมิ) เป็นผู้อันกิเลสไม่ฉาบทาแล้วในธรรม อันเป็นไปในภูมิ ๓ ทั้งปวง ละธรรมที่เป็นไปในภูมิ ๓ ได้หมด หลุดพ้นแล้ว เพราะธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา คือ “พระนิพพาน” (โดยทำให้เป็นอารมณ์) เราตรัสรู้ยิ่ง ธรรมที่เป็นไปในภูมิ ๔ ด้วยตนเองแล้ว จะพึงอ้างใครเป็นอาจารย์เล่า”
…อาจารย์เราไม่มี บุคคลผู้เช่นกับเราไม่มี ผู้เสมอเหมือนเราก็ไม่มีในโลกพร้อมทั้งเทวโลก เราเป็นพระอรหันต์ เป็นศาสดาหาศาสดาอื่นยิ่งกว่ามิได้ เป็นผู้เลิศที่สุด เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบในโลก เป็นผู้เย็นใจดับกิเลสได้แล้ว เราจะไปเมืองหลวงของแคว้นกาสี เพื่อแสดงพระธรรมจักร เราจะตีกลองอมตะในโลกอันมืดมิด เพื่อให้สัตว์ได้ดวงตาเห็นธรรม…
หลังจากที่พระองค์ ทรงตรัสเรียกพระองค์เองกับอุปกะชีวก ว่า “พระชินะ” เป็นครั้งแรกแล้ว มีปรากฏในพระไตรปิฎก อรรกถา และคัมภีร์ต่างๆมากมาย ที่กล่าวว่าพระพุทธองค์ คือ พระชินเจ้า หรือ “พระชินราช “นั่นเอง

Related products

  • เหรียญมนต์พระกาฬ หลวงปู่เขียน ปุญญกาโม กรรมการ นวะไม่ตัดปีก ติดที่ ๓

    ฿1,500.00
  • รูปหล่อเบ้าทุบ หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต กรรมการ

    ฿2,200.00
  • หนุมานคูณทรัพย์ หลวงพ่อคูณ วรปัญโญ ชุดกรรมการ ๓ องค์

    ฿900.00
© 2025 ตามรอยพุทธคุณ. All Rights Reserved. Muffin group
    1