฿450.00
เนื้อทองแดง สภาพดี ตอกโค๊ด วัดชอนสารเดช จ.ลพบุรี
หลวงพ่อเปลี้ย วัดชอนสารเดช จ. ลพบุรี ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ จริงๆ แล้วหลวงปู่ไม่ได้ชื่อเปลี้ย เดิมท่านชื่อผ่อง แต่ขาท่านเสียไปแต่อายุได้ ๑๔ ปี กลายเป็นคนเดินไม่ได้มาแต่นั้นจนบัดนี้มีอายุ ๘๕ ปี เพราะขาเสียคนเลยเรียกท่านเปลี้ยจนติดปากท่านก็ไม่ว่าอะไร ถือว่าเปลี้ยเป็นแค่สมมติอันหนึ่ง เมื่อเป็นหลวงปู่เปลี้ย หรือหลวงปู่ผ่องก็ไม่พ้นไปจากการเป็นคนๆ เดียวกันอยู่ดี ทุกขเวเทนาที่ท่านสู้อยู่กับความพิการนาน๗๑ ปี จะไปมีอะไรมาบ่มจิตใจให้แกร่งได้ดีกว่านี้ ธรรมะที่ออกจากปากของท่านจึงเป็นธรรมะของพระแท้ ไม่บิดเบือนไปจากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์แม้สักน้อย เพราะท่านเห็นทุกข์จริงๆ เขาชมว่าท่านเทศน์ดี ท่านก็ว่าพูดตามพระพุทธเจ้าจะไม่ดีได้ไง ไม่อวดตัว ไม่อวดเก่ง ไม่ยอมรับเรื่องเขายิงเหรียญท่านจนปืนแตก บอกแต่ว่าเขาให้ฉันเสก ฉันก็เสก ส่วนจะขลังหรือไม่ขลังฉันไม่รู้ สอนให้ฟังเสมอว่าคนจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จไม่ให้อวดไม่ให้พูด ถ้าพูดแล้วปาราชิก พูดคำเดียวฉันไม่รู้จะอยู่ปืนหรือไม่อยู่ปืน ฉันก็ไม่รู้ สอนแล้วสั่งอีกอย่างขึงขังจริงจังว่า อย่าเที่ยวเอาไปลองอีกนะ.ให้นึกเอาเถิดว่าคนยิงเหรียญทศบารมี ๓๘ ของหลวงปู่เปลี้ย คุณสมฺปนฺโน ไม่ได้เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ ไม่รู้จักหลวงปู่มาก่อน ชื่อก็ไม่เคยได้ยิน เขาให้ยิงก็ยิง ยิงเสร็จเหมารถจากอุดรธานีไปวัดหลวงปู่เปลี้ยที่ลพบุรีในวันรุ่งขั้นทันที เฉพาะแกคนเดียวกวาดเอาเหรียญรุ่นที่ได้ยิงจนปืนแตกคามือกลับอุดรฯ ๔๐๐ กว่าเหรียญ ผมจะตอบว่าไม่เชื่อจะสำคัญที่ไหน ในเมื่อคนยิงนั้นเชื่อจนหมดใจไปแล้ว ว่าจะไม่บอกว่าคนยิงเป็นใครแล้วเชียว ส.ต.อ. ชัยวัฒน์ นามวรรณ หน่วย สืบสวนพิรุณ สภอ.อุดรธานี เป็นการเพิ่มน้ำหนักและลบ “เขาเล่าว่า” ไปในตัว เห็นจะต้องบอกกันว่า เหรียญทศบารมี ๓๘ ของหลวงปู่เปลี้ย คุณสมฺปนฺโน วัดชอนสารเดช กิ่ง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ที่ได้ทดลองยิงนั้นเป็นเหรียญเนื้อเงินสร้างแค่ ๒๐๐ เหรียญ หมดจากวัดแล้วที่เหลือยู่กับวัดเป็นเหรียญทองแดง จำนวนสร้าง ยังไม่ทราบชัด คาดว่าน่าจะราว ๓ พัน ไม่เกิน ๕ พันเหรียญ.
หลวงปู่เปลี้ย วัดชอนสารเดชนั้น ขนาดหลวงพ่อคูณยังบอกว่าไม่ต้องมาหาข้าหลอก เอ็งอยู่แถวชัยบาดาล ไปหาอาจารย์เปลี้ย เขาเก่งกว่าข้าอีก นั้นคือการการันตีได้ว่าท่านเก่งเพียงใด